เิดินเล่นบนเส้นทางกำแพงหิมะ (เครดิตรูปภาพ: Little Koyubi)

กำแพงหิมะ ณ ทาเทยามะ

จุดบรรจบแห่งธรรมชาติและฝีมือมนุษย์

เิดินเล่นบนเส้นทางกำแพงหิมะ (เครดิตรูปภาพ: Little Koyubi)
Little Koyubi   - 1分钟阅读时间

"ยุคิโนะโอทานิ” เส้นทางเดินกำแพงหิมะที่ทุกคนรอคอยใกล้จะเปิดแล้ว

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การได้เก็บภาพถ่ายกำแพงหิมะ บนภูเขาทาเทยามะใจกลางเกาะฮอนชูที่เปรียบดังเป็นหลังคาของญี่ปุ่น คือความฝันของช่างภาพทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นหลายๆ คน แต่เอาเข้าจริงเส้นทางท่องเที่ยวทาเทยามะไม่ได้มีไฮไลท์เป็นกำแพงหิมะเท่านั้น

เพราะตลอดเส้นทางซึ่งลากจากจังหวัดทาโยม่าไปถึงจังหวัดนากาโน่ (หรือนากาโน่ไปทาโยม่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะขึ้นจากฝั่งไหน) อันมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า “เส้นทางแอลป์ทาเทยามะคุโรเบะ” (Tateyama Kurobe Alpine Route) มีจุดแวะพักให้นักเดินทางได้ชื่นชมความมหัศจรรย์ทั้งที่เป็นการรังสรรค์แห่งธรรมชาติ และที่มาจากฝีมือมนุษย์อยู่มากมายหลายจุดเลยทีเดียว

เริ่มจากสถานีทาเทยามะที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะชม “น้ำตกโชเมียว” ที่ละลายจากหิมะในฤดูใบไม้ผลิ ต้นสนหญิงงาม “บิโจสุงิ” ที่มีตำนานย้อนไปกว่าพันปี “ทุ่งมิดางะฮาระ” ที่นักเดินทางที่มีเวลามักใช้เป็นเส้นทางเดินป่าเพราะมีธรรมชาติแสนงดงาม

และเมื่อถึงสถานีมุโรโด ก็จะมีจุดชมวิวปล่องภูเขาไฟทาเทยามะตรงความสูง 2,500 เมตรซึ่งมี “บึงมิกุริกะ” สะท้อนภาพยอดเขาอันสวยงาม และเป็นบึงที่คนในสมัยก่อนจะตักมาตักน้ำเพื่อนำไปปรุงอาหารถวายเทพเจ้า

เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าทาเทยามะคือหนี่งในสามภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์ที่มีเทพเจ้าสถิตย์คอยอารักษ์อยู่ (อีกสองแห่งคือภูเขาไฟฟูจิและชิรายามะ) ดังนั้นที่นี่จึงเป็นเส้นทางที่ผู้แสวงบุญจำนวนมากมาเยือนในแต่ละปี (ส่วนบริเวณเชิงเขาซึ่งมีน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นจากหุบเขาจิโกกุดะซึ่งมีกลิ่นกำมะถันรุนแรงนั้น ก็คือพื้นที่ที่เชื่อกันว่าเป็น “นรก” ที่เมื่อใครก็ตามได้ผ่านแล้วก็จะต้องไปให้ถึงยอดเขาทาเทยามะอันเป็นสวรรค์ด้วย)

นอกจากบึงมิกุริกะ สถานีมุโรโดซึ่งถือเป็นสถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่นนี้ก็ยังเป็นจุดชม “ยุคิโนะโอทานิ” หรือกำแพงหิมะอันเป็นไฮไลท์ของเรา

ที่เป็นไฮไลท์ก็เพราะทาเทยามะนี้เป็นภูเขาที่มีหิมะตกมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยมีความสูงของหิมะที่ทับถมเฉลี่ย 7 เมตร (และอาจสูงถึง 20 เมตรในปีที่หิมะตกหนัก) โดยนักเดินทางสามารถเดินผ่านกำแพงหิมะที่ขุดเป็นทางยาวเกือบครึ่งกิโลเมตรหลังเปิดเส้นทางในช่วงเดือนเมษายนของแต่ละปี (ส่วนมากจะเริ่มเปิดตอนปลายเดือน สามารถเช็กเวลาที่แน่นอนตามประกาศเป็นปีๆ ไป)

โดยช่วงที่กำแพงหิมะมีขนาดสูงที่สุดก็คือหลังเปิดเส้นทางในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม เมื่อเข้าสู่เดือนมิถุนายนหิมะก็จะค่อยๆ ละลายและลดความสูงลงเรื่อยๆ

ตรงจุดที่ชมกำแพงหิมะนี้ นักเดินทางสามารถใช้เวลาเล่นหิมะ หรือเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดไว้อย่างน่าสนใจได้ด้วย

เมื่อถึงสถานีไดกันโบ สิ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือจุดชมวิวบนดาดฟ้าที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเจแปนแอลป์และทะเลสาบของเขื่อนคุโรเบะในมุมกว้าง นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่ผู้คนนิยมมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกกัน

ส่วนเขื่อนคุโรเบะนั้นก็คือเขื่อนคอนกรีตแบบโค้งที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง อันเป็นเวลาที่ญี่ปุ่นอยู่ในช่วงของการฟื้นฟูประเทศและพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าพุ่งสูง โครงการสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังน้ำนี้จึงเกิดขึ้น โดยความยากลำยากก็คือการขุดอุโมงค์เพื่อรางไฟฟ้าสำหรับรถบัสที่ใช้วิ่งอยู่ในหุบเขานี้เอง นั่นเพราะมีน้ำใต้ดินและทรายจำนวนมหาศาลผุดขึ้นมาตลอดเวลา ในเวลา 7 ปีของการสร้างเขื่อนนี้จึงใช้คนงานไปถึง 10 ล้านคน (และมีผู้เสียชีวิตถึง 171 คน เมื่อขึ้นไปบนเขื่อนจะเห็นอนุสาวรีย์ด้วย)

โดยตลอดเส้นทางที่กล่าวมาจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางจากแต่ละสถานี ซึ่งมีเคเบิลคาร์และรถบัสที่วิ่งบนรางไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยมลพิษให้น้อยที่สุดเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการสัมผัสประสบการณ์ทาเทยามะ

แต่อย่ากังวลว่ามันจะยาก เพราะการท่องเที่ยวเขาทำระบบไว้ดีมาก สิ่งที่ต้องทำก็คือดูเวลาให้ดีแล้วเที่ยวไปทีละจุด (ทั้งยังมีสถานีที่ให้ดร็อปสัมภาระเพื่อช่วยนักเดินทางลดภาระหนักอื้งและเที่ยวได้อย่างสะดวก ก่อนไปรับของที่ปลายทางอีกฟากหนึ่ง)

สำหรับปี 2014 เส้นทางเดินกำแพงหิมะ “ยุคิโนะโอทานิ” เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน ถึง 22 มิถุนายน ใครก็ตามที่ได้ไปเยือนอย่าลืมแกะสลักหิมะเขียนเป็นข้อความฝากไว้บนพื้นที่ที่จัดไว้ให้ แล้วถ่ายรูปกลับมาฝากกันด้วย

หมายหตุ:

การเดินทางขึ้นทาเทยามะสามารถขึ้นได้ทั้งจากสถานีทาเทยามะ จังหวัดโทยาม่า (ด้านตะวันตก) และจากสถานีโองิซาวะ (ด้านตะวันออก)

เส้นทางท่องเที่ยวแบบเที่ยวเดียวจากสถานีทาเทยามะถึงสถานีโองิซาวะ (หรือกลับกัน) ใช้เวลาราว 6-7 ชั่วโมง

เส้นทางท่องเที่ยวแบบไปกลับ (ขึ้นและลงที่สถานีเดียวกัน) ใช้เวลาราว 8-9 ชั่วโมง

จองบัตรทางเว็บได้ที่ http://www.alpen-route.com/ticket/en/index.html (ภาษาอังกฤษ) หรือซื้อบัตรได้ที่สถานี ณ วันเดินทาง

ตรวจสอบข้อมูลมีประโยชน์อื่นๆ ได้จากคำถามที่พบบ่อย http://www.alpen-route.com/th/faq#sightseeing (ภาษาไทย)

Little Koyubi

Little Koyubi @kiraya.leksomboon